ต้องอธิบายก่อนนิดนึงครับว่ายุค 2G/3G ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน จะแยกช่องสัญญาณเสียงกับข้อมูลออกจากกัน แต่พอเป็น 4G LTE จะคิดใหม่ทำใหม่ คือทุกอย่างที่ส่งกันบน LTE จะเป็นข้อมูลล้วนๆ (วิ่งบน IP ตามปกติ) ทำให้การโทรศัพท์ด้วยเสียงผ่าน LTE ตรงๆ ไม่สามารถทำได้ (การใช้งานมือถือ LTE ในปัจจุบันจึงต้องใช้ทั้ง LTE และ 2G/3G ควบคู่กันไป ขึ้นกับว่าตอนนั้นสื่อสารด้วยอะไร)
ทางออกระยะยาวของเรื่องนี้คือเปลี่ยนการสื่อสารด้วยเสียงโดยตรง ไปเป็น VoIP แล้วส่งบนเครือข่าย LTE อีกทีหนึ่ง (จะเรียกว่า VoLTE หรือ Voice over LTE ก็พอได้) แต่ก็มีปัญหาอีกว่าเครือข่าย LTE ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่มากนัก ดังนั้นถ้าคุยโทรศัพท์อยู่แล้วย้ายจากพื้นที่ที่เป็น LTE ไปยัง 3G จะมีปัญหาสายหลุดนั่นเอง
เทคโนโลยีที่มีชื่อว่า SRVCC (single-radio voice call continuity) ช่วยให้การสื่อสารด้วยเสียงบน 2G/3G สามารถส่งต่อไปยัง LTE ได้อย่างต่อเนื่องในกรณีเคลื่อนที่ระหว่างเครือข่าย 2 ประเภทนี้ ผลลัพธ์ของมันคือช่วยให้โอเปอเรเตอร์ให้บริการเสียงได้ดีขึ้น ระหว่างเครือข่ายที่เป็น LTE กับ 2G/3G เดิม
ผู้ที่ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี SRVCC คือผู้ให้บริการเครือข่ายขนาดเล็ก-กลางที่ไม่สามารถให้บริการ LTE ได้ครอบคลุมมากนัก ส่วนผู้ให้บริการจะพยายามวางโครงข่าย LTE ให้เยอะที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทำให้มีโอกาสใช้ SRVCC น้อยลงมาบ้าง (แต่ก็ไม่ถึงกับว่าจะไม่ใช้เลย)
ในระยะยาวมากๆ โครงข่ายมือถือจะต้องย้ายมาใช้ LTE ทั้งหมด เพื่อนำความถี่ย่าน 2G/3G เดิมไปใช้ทำอย่างอื่นแทน (refarming) เพื่อให้คลื่นความถี่ได้ใช้ประโยชน์สูงสุดครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น