1.27.2559

LTE-A

LTE-A : Long Term Evolution - Advanced


หลังจากประมูลคลื่นความถี่เพื่อนำไปพัฒนา 4G แล้วสิ่งที่ต่อไปที่เราจะได้ยินกันก็คือ LTE Advanced ที่มีถึงการพัฒนา LTE ในขั้นสูงและ Carrier Aggregation (CA) ที่หมายถึงการนำความถี่หลายย่านมารวมกัน ขออธิบายให้เข้าใจกันง่ายๆ ดังนี้ครับ
LTE Advanced คือ การทำ LTE ขั้นสูงให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทั้งเรื่องระยะการรับส่งข้อมูลที่ไกลมากขึ้นแถมได้ความเร็วที่มากกว่าเดิม
Carrier Aggregation หรือ CA คือการนำความถี่หลายย่านมารวมกัน
อ่านแล้วอาจจะงงๆ ลองดูตัวอย่างด้านล่างเทียบความแตกต่างระหว่าง LTE vs. LTE Advanced จะเห็นว่า
  • ความเร็ว LTE-A มากกว่า 2 เท่า
  • ความสามารถในการขนข้อมูลมากกว่า 2 เท่าคือท่อใหญ่ขึ้น (จากรูปล่างเห็นส่วนที่นำเอาสีส้ม สีฟ้า รวมแล้วส่งไปพร้อมกันไหมนั่นแหละครับ)

LTE vs. LTE-A


LTE-A นั้นมันสามารถทำได้มากกว่านั้นอีกแทนที่จะส่งความถี่เดียวแต่มันยังสามารถรวมหลายความถี่ไปด้วยกันได้ เขาเรียกว่าการทำ Carrier Aggregration หรือ CA นั่นเอง
CA สามารถนำคลื่นความถี่มารวมกันตั้งแต่ 2 ความถี่ขึ้นไป ปัจจุบัน TrueMove H, AIS และ Dtac ทำอยู่
  • ถ้านำ 2 ความถี่มารวมกันจะเรียกว่า 2CA
  • ถ้านำ 3 ความถี่มารวมกันเรียกกว่า 3CA

ในไทยเจ้าไหนทำ LTE-A บ้าง?


  • TrueMove H ทำ LTE-A แบบ 3CA โดยเอา 10MHz ของคลื่น 900MHz + 10Mhz ของคลื่น 1800MHz + 10MHz ของคลื่น 2100MHz มารวมกัน ทำให้อัตราความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 225Mbps
  • AIS ทำ 2CA โดยเอา 15MHz ของคลื่น 1800MHz + 10MHz ของคลื่น 2100MHz  ทำให้อัตราความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดที่ 150Mbps
  • dtac ทำ 2CA โดยเอา คลื่น 1800MHz + คลื่น 2100MHz ) ทำให้อัตราความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดที่ 150Mbps
แน่นอนเลยว่าปีหน้าเราจะได้ยินผู้ให้บริการรายต่างๆ ประกาศเรื่อง LTE Advanced มากขึ้นและเราอาจจะได้ใช้ LTE-A ความเร็วมากกว่า 100Mbps อย่างชัวร์
Credit : www.iphonemod.net เรียบเรียงโดยทีมงาน iPhonemod อ้างอิง Wikipedia,  Radio-ElectronicOllehTHDEVPCworld

CA

CA : Carrier Aggregation

Carrier Aggregation คือฟีเจอร์การรวมความถี่คือการใช้ความถี่หลายย่าน (band) ส่งข้อมูลพร้อมกัน เพื่อขยายแบนด์วิดท์ของการส่งข้อมูลหนึ่งครั้ง ภาพประกอบจาก Qualcomm

การรวมความถี่สามารถทำได้สูงสุด 5 ย่านพร้อมกัน มีขนาดแบนด์วิดท์สูงสุด 100MHz และสามารถแยกความกว้างของความถี่ย่อยเป็น 1.4, 3, 5, 10, 15, 20 MHz ก็ได้ ขึ้นกับความถี่ที่โอเปอเรเตอร์แต่ละรายมีใช้งาน
คำถามต่อมาคือ LTE Advanced ต้องมีอัตราการส่งข้อมูลขั้นต่ำเท่าไร คำตอบคือไม่มีกำหนดไว้ครับ ตรงนี้ขึ้นกับความกว้างของเครือข่ายที่ใช้งาน
ส่วนอัตราการส่งข้อมูลขั้นสูงสุดในทางทฤษฎีมีกำหนดไว้ สามารถทำได้ที่ 3Gbps (ดาวน์โหลด) และ 1.5Gbps (อัพโหลด) อ้างอิงจากเว็บ 3GPP แต่การทำอัตราส่งข้อมูลระดับนี้ได้ จำเป็นต้องใช้ความถี่เต็มหลอด 100MHz รวมถึงเทคนิคการส่งข้อมูลชั้นสูงอีกหลายอย่าง (เช่น MIMO หรือการส่งหลายเสาพร้อมกัน) ประกอบกัน ซึ่งอาจยังไม่มีอยู่จริงในเชิงพาณิชย์
สำหรับผู้ซื้อมือถืออ่านผ่านตาคำว่า LTE Cat 4 หรือ Cat 6 กันมาบ้าง อันนี้คือมาตรฐานของ "อุปกรณ์ที่รองรับ" (user equipment) ซึ่งปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาครับ อันที่เราเจอบ่อยๆ ได้แก่

-Category 4 ออกมาพร้อม LTE (Release 8) ดาวน์โหลดสูงสุด 150Mbps, อัพโหลดสูงสุด 50Mbps
-Category 6 ออกมาพร้อม LTE Advanced (Release 10) ดาวน์โหลดสูงสุด 300Mbps, อัพโหลดสูงสุด 50Mbps
-Category 10 ออกมาพร้อม LTE Advanced (Release 11) ดาวน์โหลดสูงสุด 450Mbps, อัพโหลดสูงสุด 100Mbps
-Category 12 ออกมาพร้อม LTE Advanced (Release 12) ดาวน์โหลดสูงสุด 600Mbps, อัพโหลดสูงสุด 100Mbps

ตัวเลข Category ของอุปกรณ์เป็นคนละเรื่องกับอัตราการส่งข้อมูลของ LTE Advanced หลายคนอาจสงสัยว่าในเมื่อ LTE Advanced มาพร้อมกับ Category 6 (300Mbps) เราสามารถนำ Category ที่ต่ำกว่ามาใช้งานได้หรือไม่ คำตอบก็คือได้ครับ สมัย LTE Advanced ออกใหม่ๆ ตอนปี 2013 เครือข่าย LG U+ และ KT ของเกาหลีใต้ เปิด LTE Advanced แบบ Category 4 ให้อัตราการส่งข้อมูล 150Mbps (อ้างอิง) ภายหลังเมื่ออุปกรณ์พร้อมมากขึ้นก็อัพเกรดเป็น Category 6 ได้ไม่ยาก

Credit: https://www.blognone.com/node/77161

AMR-WB

AMR-WB : Adaptive Multi-Rate - Wide Band

หูของคนเราสามารถได้ยินเสียงที่มีความถี่ในช่วง 20 – 20,000 Hz แต่เสียงพูดของคนเรามักจะอยู่ในช่วงความถี่ 300 – 3,500 Hz เท่านั้น โทรศัพท์ทั่วๆไปทั้งโทรศัพท์บ้านและโทรศัพท์มือถือจึงออกแบบมาให้ถ่ายทอดช่วงความถี่เสียงตั้งแต่ 0 – 4,000 Hz ซึ่งเพียงพอต่อการถ่ายทอดเสียงปลายทางให้ฟังรู้เรื่อง แต่ไม่ค่อยคมชัดเท่าไร
เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือในยุค 3G สามารถเข้ารหัสเสียงได้ 2 แบบคือ
  • คุณภาพปกติเรียกว่า Adaptive Multi-Rate – Narrow Band (AMR-NB) รองรับเสียงในช่วงความถี่ 0 – 4,000 Hz
  • คุณภาพสูงเรียกว่า Adaptive Multi-Rate – Wide Band (AMR-WB) สามารถถ่ายทอดเสียงในช่วงความถี่ 0 – 8,000 Hz มีชื่อทางการตลาดว่า HD Voice
นอกจาก HD Voice จะทำให้คุณภาพเสียงคมชัดขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เราแยกแยะเสียงในการประชุมทางโทรศัพท์ (conference call) ได้ว่าเป็นเสียงพูดของใคร และทำให้ยังคุยกันรู้เรื่องถึงแม้ว่าจะอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงอึกทึกจอแจ แต่การที่จะใช้ HD Voice ได้ โทรศัพท์มือถือต้องรองรับ HD Voice และเครือข่ายที่ใช้ก็ต้องรองรับ HD Voice ด้วย
ปัจจุบันเครือข่าย 3G ที่รองรับ HD Voice คือเครือข่าย AIS 3G และ DTAC 3G แต่มีข้อจำกัดของการใช้ HD Voice คือ จะต้องเป็นการโทรจากเครื่องที่รองรับ HD Voice ไปยังเครื่องที่รองรับ HD Voice ในเครือข่ายเดียวกันเท่านั้น
โดยโทรศัพท์มือถือของคู่สนทนาทั้ง 2 ฝ่ายต้องรองรับระบบ HD Voice อยู่ในพื้นที่ให้บริการ HD Voice
เมื่อ HD Voice ครอบคลุมคลื่นความถี่เสียงได้กว้างขึ้น ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ใสและคมชัดกว่าเดิม การสนทนาผ่านโทรศัพท์มือถือจึงราบรื่นขึ้นด้วยเสียงที่เป็นธรรมชาติ คมชัด แม้จะพูดด้วยเสียงเบา ๆ จึงเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าได้อีกขั้น
ปัจจุบันเครือข่าย AIS 3G รองรับ HD Voice ในโทรศัพท์มือถือรุ่นต่อไปนี้
  • Apple: iPhone5, iPhone5s, iPhone5c
  • Samsung: Galaxy S5, Galaxy Cooper (S5830), Galaxy Plus
  • Nokia: 500, Asha 300, Asha 303, Asha 503, 5230 Navigation, Lumia 920, Lumia 820
  • Sony: Xperia Z, Xperia J, Xperia V
  • HTC: One S
  • Acer: Z3s, Z5
  • LAVA: Iris405+, Iris354
  • I-mobile: IQX3A, IQ5.6A
  • Blackberry: Z10
AIS ทำการทดสอบ HD Voice กับโทรศัพท์มือถือทุกรุ่นก่อนที่จะปล่อยให้ใช้ HD Voice ได้ในเครือข่าย จากการเปิดให้บริการ HD Voice มากว่า 1 ปี ไม่พบปัญหาใดๆ กับโทรศัพท์มือถือแต่ละรุ่นที่ AIS ทำการทดสอบ HD Voice ดังนั้น AIS จะปล่อย HD Voice ให้กับโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องที่รองรับ HD Voice โดยอัตโนมัติตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2557 เป็นต้นไป ทำให้โทรศัพท์มือถือรุ่นต่อไปนี้สามารถใช้ HD Voice ได้
  • Nokia: Lumia 625, Lumia 925, Lumia 1520, 107, E7-00
  • Sony: Xperia Z1, Xperia ZR, Xperia ZL, Xperia E, Xperia SL, Xperia Miro, Xperia Ray, Xperia Acro S, Xperia Play
  • HTC: One, One M8, 8S
  • Acer: Z2
  • LAVA: Iris456
  • I-mobile: IQX Octo, I-Style 2.1A
  • Lenevo: A390
  • OPPO: Find Melody, Find Clover, Find Way S, Find Piano, Find 5, Neo
  • LG: Nexus 5, Optimus G Pro
  • Blackberry: Q10
  • K-Touch: Shiny, Showy, Stylish
นอกจากนี้ ทาง AIS ได้ร่วมมือกับ Samsung ในการ activate HD Voice ในมือถือ Sumsung รุ่นต่อไปนี้ เมื่อมีการ update firmware ครั้งต่อไป
  • Samsung: Galaxy S4, Galaxy S4 mini, Galaxy Note3, Galaxy Win, Galaxy Grand2, Galaxy Core, Galaxy Pocket Neo, Galaxy S Duo
หลังจากเดือนสิงหาคม 2557 โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆที่รองรับ HD Voice จะสามารถใช้ HD Voice ในเครือข่าย AIS 3G ได้ทันทีที่เปิดใช้งานครับ