SBCคืออะไร?
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก SBC กันก่อน โดยคำว่า SBC นั้นย่อมาจากชื่อเต็มๆ ที่เรียกว่า ‘Session Border Controller’ซึ่งถ้าเราแยกออกมาพิจารณาความหมายทีละคำ จะสามารถแยกออกมาได้เป็นดังนี้
- Session
- Border
โดยปกติแล้วการติดต่อกันผ่านระบบเครือข่ายใหญ่ๆ จะมีการส่งข้อมูลต่อกันไปผ่านระบบเครือข่ายเป็นจำนวนมากโดยแต่ละ network ก็จะมีอุปกรณ์ตัวสุดท้าย ที่จะรับข้อมูลเข้ามา และส่งต่อไปยัง network อื่นต่อไป อุปกรณ์ตัวสุดท้ายที่ว่าจะถูกนับเป็น ‘Border’ ของ network นั้น SBC จะถูกติดตั้งไว้ในตำแหน่งที่จะเป็น Border ของ network เพื่อดูแล session ของการสื่อสารแบบ VoIP ทั้งหมดที่จะผ่านเข้า-ออกระบบของลูกค้า โดยจะทำหน้าที่เป็นเหมือน Firewall ที่คอยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากการโจมตีผ่านระบบ network อื่นเข้ามายังระบบของคุณ
- Controller
ในการทำงาน SBC จะทำหน้าที่ควบคุม VoIP ทั้งหมดจาก network ภายนอก ที่จะติดต่อกับ network ของคุณ โดยจะควบคุมได้ทั้งจำนวน session, รายละเอียดการติดต่อกันทั้งด้าน signaling และ media ที่บางครั้ง SBC อาจจะต้องเข้ามาช่วยแก้ไขในบางส่วนเพื่อให้ปลายทางสองฝั่งติดต่อกันได้ เมื่อนำทั้ง 3 คำมารวมกัน SBC หรือ Session Border Controller ก็คืออุปกรณ์ที่จะติดตั้งอยู่เป็นหน้าด่าน ที่จะควบคุมทุกๆ การติดต่อสื่อสารแบบ VoIP ระหว่าง network ของคุณกับ network อื่นๆ ภายนอก เพื่อให้ระบบเครือข่ายมีความปลอดภัย (safety), สามารถติดต่อกันได้อย่างสมบูรณ์ (connectivity) และมีความน่าเชื่อถือได้ (Reliability) สูงนั่นเอง
ทำไมจึงต้องใช้งาน SBC?
ด้วยธรรมชาติของการติดต่อสื่อสารแบบ VoIP ที่ session การโทรแต่ละครั้งจะมีการเดินทางข้อมูลผ่าน network เป็นจำนวนมาก และแน่นอนว่าจะต้องผ่าน network ที่เป็น public network เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วย การที่ต้องเดินทางผ่าน public network นี้ทำให้การโจมตีจากภายนอกสามารถเข้ามาผ่านทาง public network ได้เช่นกัน
SBC จะถูกติดตั้งที่ขอบเขตของ network เพื่อป้องกันการโจมตีทาง IP แบบต่างๆ เช่น virus, Trojan, malware, การโจมตีระบบด้วยการทำ Denial of Service (DoS), หรือการโจมตีแบบ toll fraud ที่สร้างความเสียหายมาแล้วกว่า 55ล้านเหรียญสหรัฐ SBC จะทำหน้าที่เป็น firewall ที่ป้องกันการโจมตีเหล่านี้
นอกจากประเด็นทางด้านความปลอดภัย สิ่งที่ผู้ให้บริการระบบ VoIP ให้ความสำคัญจะเป็นการทำให้การติดต่อสื่อสารที่ต้องผ่านอุปกรณ์และระบบหลายรูปแบบสามารถ “คุย” หรือ “ทำงาน” ร่วมกันได้ (Interoperability), SBC มีความสามารถในการ transcoding ที่เป็นการปรับการเข้ารหัส-ถอดรหัสระหว่างอุปกรณ์ที่มีความต้องการด้าน codec ที่ต่างกัน ทำให้การสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ที่เป็นระบบเก่า เช่นโทรศัพท์บ้าน สามารถติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์สมัยใหม่อย่างเช่น smartphone ได้อย่างราบรื่น
SBC จะถูกติดตั้งที่ขอบเขตของ network เพื่อป้องกันการโจมตีทาง IP แบบต่างๆ เช่น virus, Trojan, malware, การโจมตีระบบด้วยการทำ Denial of Service (DoS), หรือการโจมตีแบบ toll fraud ที่สร้างความเสียหายมาแล้วกว่า 55ล้านเหรียญสหรัฐ SBC จะทำหน้าที่เป็น firewall ที่ป้องกันการโจมตีเหล่านี้
นอกจากประเด็นทางด้านความปลอดภัย สิ่งที่ผู้ให้บริการระบบ VoIP ให้ความสำคัญจะเป็นการทำให้การติดต่อสื่อสารที่ต้องผ่านอุปกรณ์และระบบหลายรูปแบบสามารถ “คุย” หรือ “ทำงาน” ร่วมกันได้ (Interoperability), SBC มีความสามารถในการ transcoding ที่เป็นการปรับการเข้ารหัส-ถอดรหัสระหว่างอุปกรณ์ที่มีความต้องการด้าน codec ที่ต่างกัน ทำให้การสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ที่เป็นระบบเก่า เช่นโทรศัพท์บ้าน สามารถติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์สมัยใหม่อย่างเช่น smartphone ได้อย่างราบรื่น
บทความโดย
คุณรัชตะ ตัญตระกูล
วิศวกรทางด้านเทคนิค
บริษัท ดิจิตอล อินสทรูเมนท์ จำกัด
คุณรัชตะ ตัญตระกูล
วิศวกรทางด้านเทคนิค
บริษัท ดิจิตอล อินสทรูเมนท์ จำกัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น